อาวียองซ์ กันแดด ยูวี เอกซ์เพิร์ท กลูตา – ออเร้นจ์ (ขนาด 60 มล.)

1. เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านม ยูวี เอ็กซ์เพิร์ท กลูตา ออเร้นจ์ เป็นกันแดดประเภทใด ?

ตอบ แบบผสมทั้งกายภาพและเคมี (Physical and Chemical Sunscreen) ซึ่งผสานสูตรที่ลงตัวเพื่อการปกป้อง อย่างครอบคลุมทั้งรังสียูวีเอ ยูวีบี บลูไลท์ อินฟราเรด อนุมูลอิสระทั้งจากแสงแดด และจากมลภาวะ ในรูปแบบเซรั่ม กันแดดเนื้อนํานม (Milky Serum Protector) อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากเกาหลี Airy Priming Effect เนื้อสัมผัสบางเบาดุจอากาศ ปรับผิวให้เนียนใส

2. จุดเด่นของ เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านม ยูวี เอ็กซ์เพิร์ท กลูตา ออเร้นจ์ ?

ตอบ จุดเด่นที่แตกต่างดังนี้

• เนื้อสัมผัส เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านม (Milky Serum Protector) เนื้อสัมผัสบางเบาดุจอากาศ ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่ เหนียวเหนอะหนะ กันนํ้ากันเหงื่อ ทาได้ทั้งผิวหน้า ผิวกาย 
• ปกป้องครอบคลุม ทั้งรังสียูวีเอ (PA++++) ยูวีบี (SPF50+) อินฟราเรด (IR) บลูไลท์จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส อนุมูลอิสระจากแสงแดด (RSF Tested 95%) และจากมลภาวะ (Anti-Pollution Tested 98%)   
• ส่วนผสม ผสานกลูตาไธโอน สารสกัดส้มสีแดง และพืชพรรณธรรมชาติ เพื่อผิวกระจ่างใส ทั้งยังมีสารกันแดด พิเศษที่ไร้ร่องรอย บางเบาไม่ทิ้งคราบขาว

3. เมื่อทาแล้วสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้นานกี่ชั่วโมง ?

ตอบ ผลิตภัณฑ์มีค่าการปกป้องครอบคลุมสูงสุด อย่างไรก็ดี เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์กันแดดทั่วไปไม่ควรระบุว่าทา แล้วจะปกป้องได้กี่ชั่วโมง เพราะค่าการปกป้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานผิวของแต่ละคน (ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสัมผัส แสงแดดเป็นเวลา 10 นาทีแล้วเริ่มมีอาการผิวแสบแดง เมื่อทาผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 50 จะทําให้ผิวทนต่อรังสียูวีบี ได้นานขึ้น 50 เท่า หรือเท่ากับ 10 นาที X 50 เท่า = 500 นาที หรือ ประมาณ 8 ชม. จึงจะเริ่มแสบแดง) แนะนําให้ ทาก่อนสัมผัสแสงแดดเป็นเวลา 20 นาที และควรทาซํ้าทุก 2 ชั่วโมงหากต้องทํากิจกรรมกลางแจ้งอย่างต่อเนื่อง หรือกิจกรรมทางนํ้าหรือหลังเช็ดหน้าเช็ดตัว

4. ทําไมค่า SPF จึงระบุว่า 50+ เครื่องหมาย + หมายความว่าอย่างไร ?

ตอบ โดยกฎหมายระบุให้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าการปกป้องรังสียูวีบี SPF ที่มีค่าสูงกว่า 50 ให้ระบุได้เพียง SPF50+ บนฉลาก เช่น แม้ผลิตภัณฑ์มีค่า SPF 80 จากการตรวจวัดจริง ก็ระบุบนฉลากได้เพียงแค่ 50+ เท่านั้น

5. ทําไมจึงไม่มีการระบุค่าการปกป้องรังสีอินฟราเรด และ บลูไลท์ บนบรรจุภัณฑ์ ?

ตอบ ในปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานระบุระดับการปกป้องรังสีอินฟราเรดและบลูไลท์ของผลิตภัณฑ์กันแดด จึงไม่สามารถระบุบนฉลากได้ อย่างไรก็ดี เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านมมีส่วนผสมของ สารสกัดจากสเต็มเซลล์ของฝ้ายอารา เบียนที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าเมื่อสัมผัสกับรังสีอินฟราเรดจะช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระและการสร้างเอนไซม์ MMP-1 ที่ทําร้ายคอลลาเจนในผิว นอกจากนี้ อะควาซีเรีย ซึ่งเป็น ซีเรียมออกไซด์ แร่ธาตุกันแดดชนิดใหม่ที่ไร้
ร่องรอยไม่ทิ้งคราบขาวก็ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าสามารถป้องกันบลูไลท์จากแสงของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

6. หากไม่ได้ออกไปทํากิจกรรมกลางแจ้ง ควรทาเซรั่มกันแดดหรือไม่ ?

ตอบ แนะนําให้ใช้เป็นประจําทุกเช้า เพราะรังสีต่างๆ สามารถทะลุผ่านกระจก หรือ สะท้อนจากพื้นขึ้นมาสัมผัสผิวได แม้ในที่ร่มแสงบลูไลท์จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่น สมาร์ทโฟน และอนุมูลอิสระจากมลภาวะที่อยู่ในอากาศ ก็ยัง ทําร้ายผิวได้

7. หากต้องไปว่ายนํ้าหรือวิ่งกลางแจ้ง ควรทา อาวียองซ์ กันแดด อย่างไร ?

ตอบ แม้จะเป็นสูตรกันนํ้า ก็มีข้อแนะนําเช่นเดียวกับข้อแนะนําทั่วไปสําหรับผลิตภัณฑ์กันแดด คือ ให้ทาก่อนสัมผัส แสงแดดเป็นเวลา 20 นาที เพื่อให้ฟิล์มของเซรั่มกันแดดเคลือบติดผิว แนะนําให้เช็ดเหงื่อด้วยวิธีการซับผิวด้วยผ้า เบาๆ ไม่ควรเช็ดถูผิวแรงๆ เพราะอาจทําให้ฟิล์มกันแดดหลุดออก และควรทาซํ้าทุก 2 ชั่วโมงหากต้องทํากิจกรรม กลางแจ้งอย่างต่อเนื่องหรือว่ายนํ้า หรือหลังเช็ดหน้า เช็ดตัว

8. เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านม เหมาะกับผิวประเภทใด ?

ตอบ เหมาะกับผิวทุกประเภท คนผิวแห้งก็ใช้ได้เพราะช่วยปกป้องผิวจากรังสีและการสูญเสียความชุ่มชื่น คนผิวมัน ผิวผสม หรือมีปัญหาสิวก็ใช้ได้เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดอะโวคาโดที่ช่วยควบคุมความมันสาเหตุสิว

9. ทําไมต้องเขย่าขวดก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ ?

ตอบ เพื่อให้สารกันแดดกระจายตัวได้อย่างทั่วถึงทุกหยด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการกันแดดให้ดียิ่งขึ้น

10. ใช้วัตถุใดเป็นตัวเขย่าให้เนื้อผลิตภัณฑ์เข้ากันได้ดี มีความปลอดภัยหรือไม่ ?

ตอบ ลูกบอลสเตนเลสชนิดพิเศษ ช่วยกระจายอนุภาคสารกันแดดให้ทั่วเซรั่มทุกหยด ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าไม่ ทําปฏิกิริยากับผลิตภัณฑ์ มีความปลอดภัยกับผู้ใช้

11. เซรั่มกันแดดใช้ Aqua Ceria จากแร่ธาตุ Cerium Oxide ซึ่งเป็นสารกันแดดรูปแบบใหม่ ที่ไร้ร่องรอยปกป้องได้ทั้งยูวีและบลูไลท์แล้ว ในสูตรยังใช้ Titanium dioxide และ Zinc Oxide อยู่หรือไม่ ?

ตอบ สูตรเซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านมพัฒนาด้วยการผสาน Cerium Oxide เข้ากับ Titanium dioxide และ Zinc Oxide เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องอย่างครอบคลุม แต่ได้เนื้อสัมผัสที่โดดเด่นกว่าเดิม บางเบาดุจอากาศ ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

12. เซรั่มกันแดดมีกลูตาไธโอน สารสกัดส้มสีแดง ที่ช่วยให้ผิวใสอยู่แล้ว ยังต้องใช้บํารุงผิวอื่นๆ อีกหรือไม่ ?

ตอบ เซรั่มกันแดดมีกลูตาไธโอน สารสกัดส้มสีแดง และพืชพรรณธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวเนียนใสขึ้น แต่เพื่อ ให้ผิวได้ ประสิทธิภาพสูงสุดจากการบํารุงครบขั้นตอน ควรใช้เซรั่มแก้ไขปัญหาผิว ครีมบํารุงความชุ่มชื่นตามประเภทผิว ก่อนการทาเซรั่มกันแดด

13. ทาปกป้องผิวด้วยเซรั่มกันแดดแล้วยังต้องกินเสริมจากภายในอีกหรือไม่ ?

ตอบ ควรปกป้องฟื้นบํารุงผิวจากรังสียูวีให้ครบทั้งจากภายในและภายนอก การทาเซรั่มกันแดดเน้นเพื่อปกป้องผิว จากภายนอก (Protect) แต่การกินเพื่อฟื้นบํารุงผิวจากภายใน (Recover) เพราะแม้จะทากันแดดทุกวันแล้ว ผิว ชั้นในยังอาจถูกทําร้ายได้ ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ทากันแดด หรือ จากการทากันแดดไม่ทั่วทั้งผิวกาย หรือจากอนุมูล อิสระที่รับเข้าสู่ร่างกายจากภายใน จึงควรต้องฟื้นบํารุงผิวด้วยการรับประทานผงชงที่ผสานกลูตาไธโอนและสาร สกัดจากส้มสีแดงที่ช่วยเติมสารต้านอนุมูลอิสระให้ผิวแข็งแรงพร้อมเผชิญแสงแดดและยังช่วยลดการสร้างเม็ดสี ผิวหมองคลํ้า ฟื้นบํารุงผิวกระจ่างใสจากภายใน

14. เคยแพ้กันแดดและแพ้นํ้าหอม จะใช้ อาวียองซ์ กันแดด นี้ได้หรือไม่ ?

ตอบ การแพ้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล สารกันแดดและนํ้าหอมมีหลายชนิด หากเคยแพ้ผลิตภัณฑ์หรือนํ้าหอมใด ก็อาจจะไม่แพ้ชนิดอื่นก็ได้ คําแนะนําสําหรับผู้ที่มีประวัติแพ้เครื่องสําอาง คือควรทดสอบก่อนเสมอ โดยอาจทาบริเวณท้องแขน หรือทาบริเวณเล็กๆ บริเวณผิวแก้มข้างกรามล่างทิ้งไว้เพื่อสังเกตว่ามีอาการหรือไม่ ทั้งนี้หากใช้ เครื่องสําอางใดแล้วมีอาการภายใน 1-2 วัน แนะนําให้หยุดใช้ และสังเกตอาการ หรือปรึกษาแพทย์

15. เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านมมีส่วนผสมของ PABA ที่ทําให้เกิดการแพ้หรือไม่ ?

ตอบ เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านมเป็นสูตร PABA-Free คือ ไม่มีส่วนผสมของ PABA (Para amino benzoic acid) ซึ่งเป็นสารกันแดดที่มักก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง

16. เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านมมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือไม่ ?

ตอบ เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านมมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อยมาก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อกระจายตัวได้ดี โดยใช้แอลกอฮอล์เกรดที่ใช้ได้ในเครื่องสําอาง และใส่ในปริมาณน้อยมากไม่ส่งผลให้ผิวแห้งระคายเคือง

17. เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านมมีส่วนผสมของสารกันเสียพาราเบนหรือไม่ ?

ตอบ เซรั่มกันแดดเนื้อนํ้านม ไม่มีส่วนผสมของ พาราเบน (Paraben) ซึ่งเป็นสารกันเสียกลุ่มหนึ่ง และใช้สารกัน เสียกลุ่มอื่นๆ ที่มีความปลอดภัย ไม่ระคายเคืองผิว แต่สามารถป้องกันการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดี

18. เด็กใช้ อาวียองซ์ กันแดด นี้ได้หรือไม่ ?

ตอบ เซรั่มกันแดดออกแบบมาสําหรับผิวผู้ใหญ่ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สําหรับเด็ก เพราะผิวเด็กมีความบอบบางระคาย เคืองง่ายต่อสารเคมีและนํ้าหอม จึงไม่แนะนําให้ทาผิวทารกหรือเด็กเล็ก อย่างไรก็ตามหากจะใช้กับเด็กโตที่สามารถ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีนํ้าหอมได้ ให้ทดลองทาปริมาณเล็กน้อยบริเวณท้องแขนหรือผิวแก้มข้างกรามล่าง ทิ้งไว้เพื่อสังเกตว่ามีอาการใดหรือไม่

19. เซรั่มกันแดดเป็นสูตรกันนํ้า เวลาล้างหน้าใช้แค่โฟมล้างหน้าเพียงพอหรือไม่ ?

ตอบ เพื่อการทําความสะอาดผิวแบบลํ้าลึก แนะนําให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดก่อนการล้างหน้า(Pre-cleanser) เช่น เคล็นซิ่ง วอเตอร์, เคล็นซิ่งมิลค์ หรือ เคล็นซิ่ง ออยล์ ในขณะหน้าแห้ง ก่อนที่จะล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าเสมอ และแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทาผลิตภัณฑ์กันแดดก็ยังควรใช้ Pre-cleanser ก่อนการล้างหน้าเช่นกัน เพื่อทําความสะอาด คราบเขม่ามลภาวะ รวมถึงเมคอัพ  

ชนิดของผลิตภัณฑ์กันแดด แบ่งออกเป็น 3 ชนิด 

1) ผลิตภัณฑ์กันแดดแบบกายภาพ (Physical Sunscreen) ใช้แร่ธาตุผงละเอียดเป็นสารกันแดดเช่น ไททาเนียม ไดออกไซด์ Titanium dioxide และ/หรือ ซิงค์ออกไซด์ Zinc oxide เมื่อทาบนผิวจะทําหน้าที่สะท้อนแสงแดด ออกไป ไม่ให้กระทบถูกผิว ปัญหาที่มักพบคือกันแดดมีเนื้อหนา ทาแล้วเป็นคราบขาว ล่าสุดมีการพัฒนา ซีเรียม ออกไซด์ Cerium Oxide แร่ธาตุที่มีความปลอดภัย มีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันรังสียูวีและช่วงแสงที่มองเห็นรวมทั้งบลูไลท์ โดยลดปัญหาการเกิดคราบขาว

2) ผลิตภัณฑ์กันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreen) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารกันแดดที่มีลักษณะเป็นสารเคมี เมื่อทาบนผิวจะทําหน้าที่เป็นฟิล์มดูดซับรังสียูวี ก่อนที่รังสีจะตกกระทบถึงผิวหนัง เมื่อทาแล้วไม่ขาว แต่อาจมี ปัญหาของสูตรที่มัน เหนียวเหนอะหนะ และสารเคมีบางชนิดเมื่อดูดซับรังสียูวีก็อาจกลายสภาพเปลี่ยนเป็นสาร ที่ระคายเคืองผิวหนัง หรือเป็นสารก่อมะเร็งได้ เช่น PABA เป็นต้น

3) ผลิตภัณฑ์กันแดดแบบผสมทั้งกายภาพและเคมี (Physical and Chemical Sunscreen) เป็นผลิตภัณฑ์กัน แดดที่ใช้ส่วนผสมที่เหมาะสมของสารกันแดดทั้งชนิดกายภาพที่สะท้อนแสงและชนิดเคมีที่ดูดซับแสง เพื่อเสริม ประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดดซึ่งกันและกัน และลดปัญหาจากความขาวและความมัน เหนียวเหนอะหนะ

ค่าการปกป้องของผลิตภัณฑ์กันแดด

SPF (Sun Protection Factor) – เป็นค่าระดับการปกป้องผิวจากรังสี UV B ซึ่งก่อให้เกิดการ Burning ผิวไหม้ แสบแดง หมองคลํ้า ตัวเลขค่า SPF แสดงว่าผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นทําให้ผิวทนรังสียูวีบีได้มากขึ้นกี่เท่า ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสัมผัสแสงแดดเป็นเวลา 10 นาทีแล้วเริ่มมีอาการผิวแสบแดง เมื่อทาผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 50 จะทําให้ผิวทนต่อรังสียูวีบีได้นานขึ้น 50 เท่า หรือเท่ากับ 10 นาที X 50 เท่า = 500 นาที (หรือ ประมาณ 8 ชม.) จึงจะเริ่มแสบแดง ดังนั้น ระยะเวลาการปกป้อง จึงแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคน ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF มากกว่า 50 กฏหมายกําหนดให้ระบุได้เพียงแค่ SPF 50+ เท่านั้น แม้จะวัดค่า SPF ได้ 80 ก็ตาม

     อนึ่งค่า SPF อาจลดลงในระหว่างวัน จากการสลายตัวของสารป้องกันรังสียูวีเมื่อสัมผัสแสงแดด เหงื่อชะ หรือการ เช็ดผิว จึงมักแนะนําให้ทากันแดดก่อนสัมผัสแสงแดด 20 นาที ทุกวัน และทาซํ้าทุก 2 ชั่วโมงเมื่อต้องเผชิญแดดต่อเนื่อง

PA (Protection grade of UVA) – เป็นระดับความสามารถของผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ซึ่งทําให้ผิวดําคลํ้าและ เกิดริ้วรอย Aging ผิวแก่ก่อนวัย โดย PA+ ปกป้องตํ่า,  PA++ ปกป้องปานกลาง, PA+++ ปกป้องสูง, และ PA++++ ปกป้องสูงมาก

RSF Tested – RSF ย่อมาจาก Radical Sun Protection Factor โดย RSF Tested เป็นค่าที่บอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถปกป้องผิวจาก อนุมูลอิสระ (Free Radical) ที่เกิดจากแสงแดดได้ ซึ่งอนุมูลอิสระจากแสงแดดอาจก่อตัวจากสารกันแดดบางชนิดหรือสารอื่นในสูตรผลิตภัณฑ์กันแดดเมื่อสัมผัสรังสียูวี ซึ่งใช้เทคนิค Electron Spin Spectrometer โดยห้องปฏิบัติการ Gematria Lab เยอรมนี วิเคราะห์หาปริมาณอนุมูลอิสระใน ผิวหนังเมื่อสัมผัสยูวี เช่น RSF Tested 95% สามารถป้องกันอนุมูลอิสระจากแสงแดดได้ถึง 95%

Anti-Pollution Tested – เป็นการระบุว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถปกป้องผิวจาก อนุมูลอิสระ (Free Radical) ที่เกิดขึ้นจากฝุ่นควันมลภาวะท่ามกลางแสงแดดได้ โดยห้องปฏิบัติการ Gematria Lab เยอรมนี ใช้เทคนิค Electron Spin Spectrometer วิเคราะห์หาปริมาณอนุมูลอิสระบนผิวหนังเมื่อสัมผัสควันบุหรี่ที่มีสารเคมีกว่าพัน ชนิดและกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระด้วยรังสียูวี เช่น Anti-Pollution Tested 98% แปลว่าป้องกันอนุมูลอิสระที่เกิด จากฝุ่นควันมลภาวะได้ถึง 98%  

Water Resistant – ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ระบุ ความสามารถในการกันนํ้า Water Resistant แสดงว่าสามารถป้องกันนํ้าได้จึงป้องกัน รังสียูวีได้ดีแม้สัมผัสเหงื่อหรือทํากิจกรรมทางนํ้า การทดสอบทําโดยวิธีมาตรฐานโดยทาบนผิวแล้ววัดค่า SPF ก่อนและหลังแช่นํ้าเป็นเวลา 40 นาที แล้วยังได้ค่าการปกป้อง SPF ตามที่ระบุบนฉลาก ทั้งนี้ยังคงแนะนําให้ทากัน แดดก่อนสัมผัสแสงแดด 20 นาที ทุกวัน และทาซํ้าทุก 2 ชั่วโมงเมื่อต้องเผชิญแดดต่อเนื่องหรือมีกิจกรรมทางนํ้า และหลังเช็ดตัว 

Aqua, Cyclopentasiloxane, Homosalate, Silica, Ethylhexyl Salicylate, Titanium Dioxide, Lauryl PEG-10 Tris(Trimethylsiloxy)Silylethyldimethicone, Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate, Glycerin, Alcohol, C12-15 Alkyl Benzoate, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine, Isopropyl Palmitate, Dimethicone, Magnesium Sulfate, Aluminum Hydroxide, Stearic Acid, Quaternium-18 Bentonite, PEG-10 Dimethicone, Phenoxyethanol, Dimethicone/Vinyl Dimethicone Crosspolymer, Triethoxycaprylylsilane, Sodium Benzoate, Acrylates/ Dimethicone Copolymer, Silica Dimethyl Silylate, Parfum, Potassium Sorbate, Citrus Grandis Peel Oil, Disodium EDTA, Tocopheryl Acetate, Glutathione, Maltodextrin, VP/Hexadecene Copolymer, Butyl Avocadate, Olea Europaea Leaf Extract, Capparis Spinosa Fruit Extract, Citrus Sinensis Fruit Extract, Oryza Sativa Extract, Gossypium Herbaceum Extract, Cerium Oxide, Gluconolactone, Propyl Gallate, Platinum Powder