บียอนด์ อินเดียนกู๊ดส์เบอร์รี่ หรือมะขามป้อมอินเดียจัดเป็นพืชทางการแพทย์ที่มีความสำคัญต่อชีวิต และมีประวัติการใช้มานานกว่า 3,000 ปี ในตำนานของอินเดียโบราณกล่าวว่า “มะขามป้อมอินเดีย เป็นพืชชนิดแรกในจักรวาล” จึงมีการนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพเก็บในที่แห้งและเย็น ควรเก็บให้พ้นจากแสงแดด
เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย สกัดให้ได้สารกลุ่มแทนนินที่เข้มข้นกว่ามะขามป้อมผงบดทั่วไป ถึง 20 เท่า มีงานวิจัยรับรองผลลัพธ์ในการลดระดับน้ำาตาลและไขมันในเลือด คัดเลือกสายพันธุ์ต้นกำเนิด จากประเทศอินเดีย ปราศจากการตัดแต่งพันธุกรรม ยาฆ่าแมลง ปราศจากน้ำตาล สารกันเสียและสี สังเคราะห์ สารกลูเตนที่อาจก่อการแพ้ควบคุมคุณภาพการผลิตจากสหรัฐอเมริกา ได้รับรองสิทธิบัตรถึง 8 ฉบับ เข้มข้น ละลายง่าย พร้อมดูดซึม รสชาติหอมอร่อย
ภาวะน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงอาจเกิดขึ้นในร่างกายโดยที่คุณไม่รู้ตัว เป็น ต้นเหตุของโรคเบาหวาน และโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ (NCDs) และอาจนำไปสู่โรคร้ายแรง รวมถึงอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานมากถึง 200 คนต่อวัน ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารติดหวานติด มัน เช่น การติดขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม ชาเย็น หรือกาแฟเย็น การชอบกินของหวานหลังมื้ออาหารหลัก การกิน ข้าวแป้งมากเกินความต้องการของร่างกาย และการกินมื้อดึก
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม ต่อวัน แต่พฤติกรรมคนไทย กินน้ำตาลในอาหารและขนมรวมมากกว่าที่แนะน าถึง 3 เท่า จึงทำให้อัตราการเป็นเบาหวานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น้ำตาลในเลือดกับระบบภูมิคุ้มกัน
การกินน้ำตาล 1 ช้อนชา ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง 50% ใน 6 ชั่วโมง เนื่องจากน้ำตาลมีผลรบกวนกระบวนการ ต้านเชื้อโรคและการต้านการอักเสบของร่างกาย นอกจากนี้น้ำตาลยังเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อโรค รวมถึงไวรัสและแบคทีเรียต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ผู้ป่วยเบาหวานที่มีน้ำตาลสะสมสูงจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไปและเมื่อ ติดเชื้อแล้วอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นตัดแขน ตัดขา หรือเสียชีวิตได้
พฤติกรรมกินหวานกินแป้งมีผลให้ฮอร์โมน “อินซูลิน” ที่สร้างจากตับอ่อน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ และนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงาน ทำงานหนักขึ้น เมื่อน้ำตาลสะสมในเลือดสูงเป็น เวลานานทำให้เกิด “ภาวะดื้ออินซูลิน” กล่าวคือการตอบสนองต่ออินซูลินลดลง นำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ใน ที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อร่างกายดื้ออินซูลิน การดึงน้ำตาลในเลือดไปใช้สร้างพลังงานจะลดลง ร่างกายจะ ตอบสนองโดยการให้ตับสร้างไขมันขึ้นมาใช้เป็นพลังงานทดแทน ส่งผลให้เกิดไขมันพอกตับ และไขมันสูงใน หลอดเลือด การดูแลตนเองปรับพฤติกรรมการกินอาหารสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเหล่านี้ได้
ชนิดของเบาหวาน :
- โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 diabetes mellitus, T1DM) เกิดจากเซลล์ตับอ่อนถูกทำลายโดยภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ขาดอินซูลิน มักพบในเด็ก
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 diabetes mellitus, T1DM) เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุดมากกว่า 95% เกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น ภาวะอ้วน ขาด การออกกำลังกาย และพฤติกรรมการกินอาหารหวานมัน มักพบในวัยผู้ใหญ่
- โรคเบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ (Specific types of diabetes due to other causes) เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคทางพันธุกรรม โรคของตับอ่อน โรคทางต่อมไร้ท่อ และยาบางชนิด
- โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational diabetes mellitus, GDM) เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ มักเกิดเมื่อไตรมาส 2-3 ของการตั้งครรภ์ในบางรายเมื่อคลอดบุตรแล้ว อาจยังคงเป็นโรคเบาหวานต่อ
ระดับน้ำตาลในเลือดเท่าไหร่ ที่เรียกว่าปกติ
หลายคนจะคุ้นเคยกับการอดอาหาร 8 ชั่วโมงเพื่อเจาะเลือดวัด”ระดับน้ำตาลในเลือด” (FBS, Fasting blood sugar) แต่รู้หรือไม่ว่ามีอีกหนึ่งค่าที่เรียกว่า “ระดับน้ำตาลสะสม” หรือ HbA1c (Hemoglobin A1c, ฮีโมโกลบิน เอวันซี) คือ ระดับน้ำตาลสะสมในเลือดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อวัดดูความสามารถในการควบคุมระดับ น้ำตาล ซึ่งการลดอาหารหวาน 2-3 วันก่อนเจาะเลือดอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดดูเป็นปกติ แต่ไม่สามารถลด ระดับน้ำตาลสะสม HbA1c ได้ ดังนั้นหากระดับน้ำตาลสะสม HbA1c อยู่ในช่วงปกติ แสดงว่าสามารถควบคุม ระดับน้ำตาลได้ต่อเนื่องจริง โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะเจาะวัดทั้ง 2 ค่าเพื่อดูแนวโน้มการเป็นเบาหวานควบคู่กัน
ปัจจุบันเริ่มพบภาวะเบาหวานในวัยรุ่น วัยหนุ่มสาวมากขึ้น ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าคนอายุมาก โรคเบาหวาน นับเป็นโรคที่รักษาด้วยยาไม่หายและมีค่าใช้จ่ายตลอดชีวิต รวมถึงเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนที่จะตามมาอีกมากมาย การดูแลตนเองให้ห่างไกลจากเบาหวานเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนตั้งแต่เนิ่นๆจึงมีความสำคัญมาก
ประโยชน์ของ บียอนด์ อินเดียนกู๊ดส์เบอร์รี่ หรือ มะขามป้อมอินเดีย
ตามตำราอายุรเวทโบราณของอินเดียกว่า 3,000 ปี มีการใช้ อินเดียนกู๊ดส์เบอร์รี่ (Indian Gooseberry) หรือ มะขามป้อมอินเดีย (คำว่า “อายุรเวท” มาจาก “อายุส” หมายถึง อายุยืนยาว “เวท” หมายถึง องค์ความรู้อายุรเวทจึงเป็นศาสตร์ที่ส่งเสริมให้สุขภาพดียืนยาวนั่นเอง) ผลไม้นี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica ชาวอินเดียเรียกอัมลา (Amla) หรือ อมาลกะ (Amalaka) แปลว่า พยาบาล เป็นยาอายุวัฒนะ รักษา โรค บำรุงร่างกาย ปัจจุบันพบว่า อินเดียนกู๊ดส์เบอร์รี่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งกระตุ้นการเผาผลาญน้ำตาล และไขมัน การปรับสมดุลหลอดเลือด การไหลเวียนเลือด การปรับระบบการย่อย และการดูดซึมอาหาร รวมถึง แก้หวัด ไอ เจ็บคอ ขับเสมหะ ใช้เป็นยาระบาย ใช้รักษาเลือดออกตามไรฟัน และแก้น้ำเหลืองเสีย ทั้งนี้เนื่องจาก อินเดียน กู๊ดส์เบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด ได้แก่ ฟลาโวนอยด์ โพลีฟีนอล แทนนิน วิตามินซี เอ บี กรดอะมิโนไลซีน เมไธโอนีน และแร่ธาตุต่างๆ
เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย – Super Sugar Cut Drink ตัดหวาน ตัดมัน ต่อชีวิต
ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยสารสกัดผล อินเดียนกู๊ดส์เบอร์รี่ มากขึ้นและนำมาสกัดเพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์ที่เข้มข้นใน รูปแบบเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย (1 ซอง มีสารสกัด 500 มก.) มุ่งเน้นที่ประโยชน์ด้านการควบคุม น้ำตาลและไขมันในเลือดโดยเฉพาะ และพัฒนาให้มีจุดเด่นที่เหนือกว่ามะขามป้อมทั่วไป ดังนี้
1. คัดเลือกสายพันธุ์ต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย ปราศจากการตัดแต่งพันธุกรรม ยาฆ่าแมลง และสารกลูเตนที่อาจทำให้แพ้ ใช้การสกัดด้วยน้ำ 100% ด้วยอุณหภูมิสูงที่ได้รับรองสิทธิบัตรถึง 8 ฉบับ ควบคุมคุณภาพการผลิตจากสหรัฐอเมริกา
2. มีสารสกัดมะขามป้อมอินเดียที่อุดมด้วยสารออกฤทธิ์ที่เข้มข้นกว่าผงมะขามป้อมทั่วไปถึง 20 เท่า โดย ผงสกัดมะขามป้อมอินเดียเข้มข้น 1 กิโลกรัม ต้องใช้ผลมะขามป้อมอินเดียมากถึง 20 กิโลกรัม
3. อุดมด้วยสารออกฤทธิ์ โดยเฉพาะสารกลุ่มแทนนินในปริมาณสูง จึงมีรสฝาดอ่อนๆ และมีประโยชน์ใน การควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด
4. มีงานวิจัยรับรองผลลัพธ์การลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
5. ปราศจากน้ำตาล โดยคัดเลือกสารให้ความหวาน ไอโซมอลต์ทูโลส (Isomaltulose) และ อีริทริทอล (Erythritol) ที่ปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด
6. เข้มข้น แต่ละลายง่ายในน้ำอุ่น พร้อมดูดซึม
7. แต่งกลิ่นน้ำผึ้งและมะนาวธรรมชาติ(ฮันนี่เลมอน) รสชาติหอมอร่อย
งานวิจัยผลลัพธ์เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
งานวิจัยศึกษาผลของการลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด โดยให้อาสาสมัครดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย 1,000 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่า 2 ซองต่อวัน ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ ดังนี้
• ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงสูงสุดถึง 22% ภายใน 2 ชั่วโมง หลังทานอาหาร
ทดสอบในอาสาสมัครสุขภาพดี 5 คน กินอาหารที่มีพลังงาน 584 กิโลแคลอรี่ (คาร์โบไฮเดรต 91 กรัม น้ำตาล 60 กรัม) เปรียบเทียบระดับน้ำตาลโดยการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเมื่อดื่ม บียอนด์ อินเดียนกู๊ดส์เบอร์รี่ หลังอาหารเทียบกับไม่ได้ดื่ม ผลการทดสอบพบว่า 4 ใน 5 คน มีค่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลงสูงสุดถึง 22%
• ค่าน้ำตาลสะสม (HbA1c) ลดลงสูงสุดถึง 15% ภายใน 1 เดือน
ทดสอบในอาสาสมัคร 33 คน พบว่าช่วยลดค่าน้ำตาลสะสม (HbA1c) เฉลี่ย 5% และลดสูงสุด 15% ภายใน 1 เดือน (จาก 5.78% เป็น 5.51%)
• เพิ่มไขมันดีคอเลสเตอรอล HDL สูงสุด 77% ภายใน 1 เดือน
ทดสอบในอาสาสมัคร 33 คน พบว่าค่าไขมันดี HDL เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% ใน 1 เดือน และเพิ่มสูงสุดถึง 77%
• ลดไขมันร้าย Triglyceride 24% และคอเลสเตอรอล LDL 25% ภายใน 3 เดือน
ทดสอบในอาสาสมัคร 80 คน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าไตรกลีเซอไรด์ ลดลง 24% และคอเลสเตอรอล LDL ลดลง 25%
นอกจากนี้อาสาสมัคร 33 คน ที่ดื่มเครื่องดื่ม บียอนด์ อินเดียนกู๊ดส์เบอร์รี่ วันละ 1,000 มิลลิกรัม หรือ 2 ซอง ทุกวัน เป็นเวลา 2 เดือน รู้สึกได้ว่า สุขภาพหลอดเลือดดีขึ้น สดชื่นไม่เหนื่อยง่าย ขับถ่ายดีขึ้น นอนหลับดีขึ้น และ ร่างกายเผาผลาญดีขึ้น
วิธีรับประทาน :
- ละลายเครื่องดื่มผง 1 ซอง ในน้ำร้อนปริมาณ 50 มล. คนให้ละลาย รับประทานวันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร เช้า-เย็น
- สามารถชงดื่มพร้อมหรือหลังมื้อขนมหวาน ดื่มได้สูงสุดวันละ 4 ซอง
เลขที่ใบรับแจ้ง/อย. : 13-1-02954-2-0048
ส่วนประกอบ : Indian Gooseberry Extract 500 mg (27.89%)
น้ำหนักสุทธิ บิ๊กแพ็ค 30 ซอง 53.79 g. (30 ซอง X 1.793 g.), มินิแพ็ค 10 ซอง 17.93 กรัม (10 ซอง x 1.793 กรัม)
1. จุดเด่นของเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย Super Sugar Cut Drink คืออะไร ?
ตอบ เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย สกัดให้ได้สารกลุ่มแทนนินที่เข้มข้นกว่ามะขามป้อมผงบดทั่วไป ถึง 20 เท่า มีงานวิจัยรับรองผลลัพธ์ในการลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด คัดเลือกสายพันธุ์ต้นกำเนิด จากประเทศอินเดีย ปราศจากการตัดแต่งพันธุกรรม ยาฆ่าแมลง ปราศจากน้ำตาล สารกันเสียและสี สังเคราะห์ สารกลูเตนที่อาจก่อการแพ้ควบคุมคุณภาพการผลิตจากสหรัฐอเมริกา ได้รับรองสิทธิบัตรถึง 8 ฉบับ เข้มข้น ละลายง่าย พร้อมดูดซึม รสชาติหอมอร่อย
2. เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียเพาะปลูกอย่างไร เก็บเกี่ยวอย่างไร ใช้สายพันธุ์ใด และผ่านกระบวนการ สกัดแบบใด ?
ตอบ สกัดมาจากมะขามป้อมอินเดียที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica ซึ่งเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่น และดั้งเดิมของประเทศอินเดีย เพาะปลูกแบบไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ตัดแต่งพันธุกรรม ผ่านกระบวนการสกัด ด้วยน้ำ 100% ได้รับสิทธิบัตรถึง 8 ฉบับ ทำให้ได้ปริมาณสารสำคัญของสารสกัดที่สูงกว่าการสกัดทั่วไป
3. เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียมีความเข้มข้นเท่าไร เมื่อเทียบกับมะขามป้อมทั่วไป ?
ตอบ การได้มาซึ่งเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย 1 ส่วน ต้องใช้มะขามป้อมอินเดียถึง 20 ส่วน น ามา ผ่านการสกัดให้ได้สารออกฤทธิ์ที่เข้มข้น จึงอาจเรียกได้ว่าผงสกัดมะขามป้อมอินเดียมีความเข้มข้นมากกว่า มะขามป้อมทั่วไปถึง 20 เท่า
4. ส่วนประกอบสำคัญต่อ 1 ซอง ระบุ มีสารสกัดมะขามป้อมอินเดีย 500 มก. (27.89%) หมายความว่าอย่างไร ?
ตอบ น้ำหนักของสารสกัดมะขามป้อมอินเดีย 500 มิลลิกรัมต่อซอง หรือ 0.5 กรัม แต่ในสูตรจะมีส่วนผสม อื่นๆเช่นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล และส่วนผสมอื่น รวมเป็นน้ำหนักต่อซอง 1.793 กรัม ซึ่งสารสกัดฯ 0.5 กรัม คิดเป็น 27.89% ของน้ำหนักส่วนผสมทั้งหมดในซอง 1.793 กรัม
5. เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย สกัดแล้วได้สารสำคัญอะไร ?
ตอบ สารออกฤทธิ์กลุ่มแทนนินที่มีรสฝาดอ่อนๆ ปริมาณสูง มีประโยชน์ช่วยควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด
6. เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียมีกลไกในการลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร ?
ตอบ สารสกัดมะขามป้อมอินเดียช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินโดยไปกระตุ้นการทำงานของ เซลล์ตัวรับอินซูลิน (Insulin Receptor) ส่งผลให้ร่างกายดึงน้ำตาลในเลือดเข้าเซลล์ไปใช้เป็นพลังงาน ระดับน้ำตาลในเลือดรวมถึงน้ำตาลสะสม HbA1c จึงลดลงเมื่อดื่มต่อเนื่อง
7. เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียมีกลไกในการลดไขมันร้ายในเลือดได้อย่างไร ?
ตอบ เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียช่วยให้ร่างกายนำไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายมา เผาผลาญเป็นพลังงานมากขึ้น นอกจากนี้จากผลของการช่วยลดน้ำตาลในเลือด ทำให้ร่างกายมีแหล่ง พลังงานจากการดึงน้ำตาลไปใช้ส่งผลให้ตับไม่ต้องสร้างแหล่งพลังงานทดแทน จึงลดการสร้างไขมันร้าย ไตรกลีเซอไรด์และ คอเลสเตอรอล LDL อีกทั้งยังเพิ่มปริมาณของไขมันดี HDL กับร่างกายได้อีกด้วย
8. ต้องดื่มนานเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์การลดระดับน้ำตาลในเลือด ?
ตอบ จากผลลัพธ์งานวิจัยจะพบว่า การดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย 2 ซอง หรือ 1,000 มก. หลังมื้ออาหาร สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ทันทีเมื่อเทียบกับไม่ได้ดื่ม นอกจากนี้การดื่ม ติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน เช้า-เย็น จะช่วยลดน้ำตาลสะสม HbA1c ในเลือดได้
9. ต้องดื่มนานเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์การลดไขมันในเลือด ?
ตอบ จากผลลัพธ์งานวิจัยจะพบว่าการดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย 2 ซอง หรือ 1,000 มก. ต่อวัน ช่วยลดระดับไขมันร้ายไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอล LDL ได้ภายใน 3 เดือน
10. หากดื่มมากกว่า 2 ซองต่อวัน จะช่วยลดระดับน้ำตาลได้มากขึ้นหรือไม่ ?
ตอบ งานวิจัยพบว่าดื่มวันละ 2 ซองเริ่มเห็นผลลัพธ์การควบคุมน้ำตาลในเลือด ทั้งนี้สามารถชงดื่มได้สูงสุด วันละ 4 ซอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด โดยแนะนำชงร้อนดื่มประจำเช้าเย็น และดื่มเพิ่มพร้อมหรือหลังมื้ออาหารหวาน หรือของว่างยามบ่าย อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและควรดูแลการควบคุมอาหารร่วมด้วย
11. ทำไมบางคนดื่มแล้ว น้ำตาลและไขมันในเลือดไม่ลดลง ?
ตอบ แม้ว่างานวิจัยจะยืนยันว่าการดื่มทุกวันต่อเนื่องภายใน 1 เดือนก็ลดน้ำตาลสะสมในเลือดได้ และการดื่ม 3 เดือน ช่วยลดไขมันร้าย LDL และ Triglyceride ได้ แต่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ความสม่ำเสมอใน การดื่มหลังอาหารและมื้อขนมของหวาน รวมทั้งการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายด้วย
12. ทำไมกินแล้วบางคนถึงรู้สึกขับถ่ายดีขึ้น ?
ตอบ หนึ่งในประโยชน์ของมะขามป้อมอินเดีย คือการปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งมีฤทธิ์ช่วย ระบายอ่อนๆ ดังนั้นจึงช่วยให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้นได้ในบางคน
13. เคยได้ยินว่า มะขามป้อมกินแก้ไอ ขับเสมหะ เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย สามารถบรรเทาอาการ เหล่านี้ได้หรือไม่ ?
ตอบ ประโยชน์ของมะขามป้อมอินเดียมีคุณสมบัติช่วยให้ชุ่มคอจึงช่วยแก้ไอ เจ็บคอ ขับเสมหะได้ แต่เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียเน้นสารสกัดมะขามป้อมอินเดียเข้มข้นซึ่งมีฤทธิ์ในการควบคุมระดับ น้ำตาลและไขมันในร่างกายเป็นหลัก
14. เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียต่างจากสารสกัดมะขามป้อมในรูปแบบแคปซูลในท้องตลาดอย่างไร ?
ตอบ เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย ใช้สารสกัดมะขามป้อมอินเดียที่เข้มข้นถึง 20 เท่า (ใช้มะขามป้อม อินเดียถึง 20 กก. สกัดให้ได้สารสกัดเข้มข้น 1 กก.) และมีกระบวนการสกัดที่จดสิทธิบัตรถึง 8 ฉบับให้ได้ สารสำคัญปริมาณสูงที่ช่วยควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด จึงไม่ต้องกินในปริมาณมากก็ได้สารที่ออกฤทธิ์ เพียงพอ แต่แคปซูลสารสกัดทั่วไปอาจมีความเข้มข้นน้อยกว่า และต้องกินในปริมาณมากกว่า
15. ไอโซมอลต์ทูโลส (Isomaltulose) ที่ใช้แทนน้ำตาลทรายในการให้ความหวาน มีข้อดีอย่างไร ?
ตอบ ไอโซมอลต์ทูโลส เป็นสารทดแทนน้ำตาลที่มีค่า Glycemic Index ต่ำจึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด สูงแบบน้ำตาลทราย รับรองประสิทธิภาพและคุณภาพความปลอดภัยโดย European Food Safety Authority (EFSA) และ ได้ GRAS (Generally recognized as safe) จาก อย.สหรัฐอเมริกา USFDA
16. อีริทริทอล (Erythritol) ที่ใช้แทนน้ำตาลทรายในการให้ความหวาน มีข้อดีอย่างไร ?
ตอบ อีริทริทอล เป็นสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลทรายที่ปราศจากพลังงาน รสชาติคล้ายน้ำตาลทราย เหมาะกับผู้ที่คุมน้ำตาลในเลือด รับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA)
17. ทำไมถึงรู้สึกถึงรสฝาดในเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย ?
ตอบ รสฝาดเป็นรสธรรมชาติของมะขามป้อมอินเดีย มาจากสารสำคัญในกลุ่มแทนนินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ หลักที่มีประโยชน์ ซึ่งเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียมีแทนนินที่มีความเข้มข้น และมีปริมาณสูงจึงมีรส ฝาดบ้าง แต่การแต่งรสและกลิ่นน้ำผึ้งมะนาวช่วยให้รสกลมกล่อม ดื่มง่าย
18. หากต้องการเพิ่มรสหวาน สามารถเติมน้ำตาลเพิ่มได้หรือไม่ ?
ตอบ เครื่องดื่มนี้ออกแบบมาเพื่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด การเติมน้ำตาลทรายจึงอาจขัดแย้งกับ วัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์ และมีการแต่งรสหวานด้วยสารทดแทนน้ำตาลที่ปลอดภัยแล้ว แต่หากยังต้องการเพิ่มรสหวานแนะนำให้ใช้น้ำตาลเทียม หรือสารสกัดหญ้าหวานสตีเวีย หรือน้ำผึ้งเพียงเล็กน้อย
19. สามารถชงดื่มกับน้ำเย็นหรือไม่ใช้น้ำร้อนได้หรือไม่ ?
ตอบ แนะนำให้ชง 1 ซอง ละลายน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นประมาณ 50 มิลลิลิตร เพื่อให้ได้รสชาติและการละลายที่ดีกว่า การชงดื่มในน้ำเย็นอาจทำให้การละลายไม่ดีแต่ไม่ได้ทำให้ประโยชน์ของมะขามป้อมอินเดียหายไป
20. หากต้องการชงในน้ำเย็นหรือผสมในเครื่องดื่มเย็น หรือเทผงสารสกัดใส่ปากโดยตรงได้หรือไม่ ?
ตอบ ผงสารสกัดละลายได้ดีในน้ำอุ่น ละลายยากในน้ำเย็น แต่สามารถคนให้กระจายตัวและดื่มได้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะย่อยและดูดซึมได้ปกติ หรือสามารถชงในน้ำอุ่นแล้วเติมน้ำแข็งก็ได้แต่ไม่แนะนำให้เทผงสารสกัดใส่ปาก อาจทำให้สำลักผงเป็นอันตรายได้
21. การชงดื่มด้วยน้ำร้อนจะส่งผลให้สารอาหารที่อยู่ในมะขามป้อมอินเดียหายไปหรือไม่ ?
ตอบ สารสำคัญต่างๆในมะขามป้อมอินเดียไม่ถูกทำลายด้วยน้ำร้อน ดังจะเห็นได้ตั้งแต่อดีตว่ามีการนำมะขามป้อมมาแช่ในน้ำร้อนก่อนกินเพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์ที่มากขึ้น
22. ทำไมถึงควรดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียหลังมื้ออาหาร ?
ตอบ เนื่องจากการกินอาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารหลักหรืออาหารหวาน ย่อมมีน้ำตาลหรือแป้งอยู่ในนั้นจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดหลังอาหาร ดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาล ควรดื่มพร้อมหรือหลังมื้ออาหาร และยังดื่มเพิ่มในมื้อพิเศษที่กินอาหารว่างหรือของหวานได้ด้วย
23. สามารถดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียขณะท้องว่าง หรือระหว่างมื้ออาหารได้หรือไม่ ?
ตอบ สามารถดื่มได้ ไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกายอย่างใด แต่แนะนำให้ดื่มหลังมื้ออาหาร เพื่อประสิทธิภาพ ในการคุมน้ำตาลจากมื้ออาหาร
24. ดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียได้สูงสุดวันละกี่ซอง หากดื่มมากเกินไปจะมีผลข้างเคียงอย่างไร ทำให้น้ำตาลตกและหน้ามืดหรือไม่ ?
ตอบ ชงดื่มได้สูงสุดวันละ 4 ซอง มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้น้ำตาลตกหรือเกิดอาการหน้ามือในบุคคลทั่วไป แต่หากดื่มมากเกินไปจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ทำให้ท้องเสียในบางคนได้
25. สามารถดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียได้ต่อเนื่องนานแค่ไหน จะสะสมเกิดอันตรายหรือไม่ ?
ตอบ สามารถดื่มได้ต่อเนื่องทุกวัน เพราะเป็นสารสกัดที่ปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือสะสมเป็นพิษ
26. สามารถดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียเพื่อการลดน้ำหนัก ลดความอ้วน กระชับสัดส่วนได้หรือไม่ ?
ตอบ เครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก แต่เน้นเรื่องการควบคุมน้ำตาลและ ไขมันในเลือด ผู้ที่มีภาวะอ้วนซึ่งมีความเสี่ยงน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงจึงได้ประโยชน์โดยตรง นอกจากนี้ สารสกัดมะขามป้อมอินเดียมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายไปใช้เป็นพลังงาน และมีงานวิจัยรายงานว่าช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้เมื่อดื่มต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และควรควบคุมอาหาร ออกกำลังกายร่วมด้วย
27. คนที่ไม่มีปัญหาสุขภาพ น้ำตาลและไขมันในเลือดไม่สูง สามารถดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียได้หรือไม่ จะได้ประโยชน์อะไร ?
ตอบ แม้ไม่มีปัญหาสุขภาพก็สามารถดื่มได้หลังมื้ออาหาร หรือมื้อขนมหวาน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาล ลดความเสี่ยงของภาวะน้ำตาลสะสมและไขมันร้ายในเลือดสูง เพิ่มการเผาผลาญไขมัน เพิ่มไขมันดี HDL
28. เด็ก สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตรดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย ได้หรือไม่ ?
ตอบ ไม่มีข้อห้ามการดื่มสำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลการศึกษายืนยัน ความปลอดภัยและอาจไม่มีความจำเป็นในการควบคุมระดับน้ำตาลในกลุ่มคนดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์อาจควบคุมระดับน้ำตาลได้ยาก หากต้องการดื่มควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลโดยตรง
29. ผู้ป่วยเบาหวานที่ทานยาเบาหวานหรือใช้อินซูลินฉีดอยู่ ดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดียได้หรือไม่ ?
ตอบ สามารถแนะนำได้ แม้ไม่มีข้อห้ามใช้ แต่มีข้อควรระวัง เพราะสารสกัดมะขามป้อมอินเดียมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ดังนั้นผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีพอ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลโดยตรงเพื่อรับคำแนะนำ เพราะอาจมีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลได้
30. ผู้ป่วยโรคไต ดื่มเครื่องดื่มผงสกัดมะขามป้อมอินเดีย ได้หรือไม่ ?
ตอบ สามารถแนะนำได้ เพราะไม่มีน้ำตาลและโซเดียม ที่เป็นอันตรายต่อไต อย่างไรก็ดี ในผู้ป่วยโรคไตที่มี ความรุนแรงและมีความกังวลใจ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลโดยตรงก่อนรับประทาน